วิธีการกลับปกเสื้อให้แหลม

 1.รีดผ้ากาวติดปกชิ้นบน

 2.กลัดเข็มหมุดปกทั้งสองชิ้นติดกัน การกลัดเข็มหมุดในการเย็บบนจักรควรกลัดตามแนวขวางดังรูปเพื่อความสะดวกในการดึงเข็มหมุดออกขณะเย็บ

 3. เย็บตามแนวผ้ากาวหยุดจักรก่อนถึงมุมปกหนึ่งฝีเข็มดังรูปและปักเข็มบนผ้า  นำด้ายมาแทรกระหว่างปกสองชิ้นดึงด้ายให้ชิดเข็มจักร

 4.เย็บจักรหนึ่งฝีเข็มที่หยุดไว้ปักเข็มที่มุมแหลมของปกแล้วหมุนผ้า

 5. จับปลายด้ายรวมกันแล้วจับสอดเข้าไปด้านในระหว่างปกสองชิ้น ทเสร็จแล้วเย็บปกต่อจนถึงมุมปกอีกด้านทำวิธีเดียวกัน

 6. วิธีการพับผ้ามุมปกก่อนกลับให้พับตะเข็บเป็นมุมแหลมดังรูป

 7. จับผ้าที่พับไว้ตรงมุมปกแล้วพลิกกลับตะเข็บเข้าไปด้านใน

 8. ดึงด้ายที่เย็บคล้องไว้ที่มุมปกให้ตึงก็จะได้มุมปกที่แหลม  นำไปรีดตะเข็บให้เรียบ

9. นำมาเย็บเส้นริมปกแล้วดึงด้ายที่คล้องออกก็จะได้ปกที่มีมุมแหลมสวยงาม

เจาะลึกชุดเจ้าสาวของเคท มิดเดิลตัน

• . ในงานเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลี่ยมและเคท มิดเดิลตัน . หลายๆท่านโดยเฉพาะสาวๆ ต่างก็ตั้งตาที่จะยลโฉมชุดเจ้าสาว ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ . ต้องขอชื่นชมในความงามที่เป็นชุดแบบเรียบง่ายแต่ดูดี . และเหมาะกับบุคลิกของเธอมาก . ชุดเจ้าสาวชุดนี้ออกแบบโดย Sarah Burton ซึ่งเป็นdesigner . แห่งแบรนด์ Alexander Mc Queen . เนื้อผ้าที่ใช้ตัดเย็บเป็นผ้าไหมชั้นดี ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน เนื้อผ้าจะไม่ยับค่ะ . และตัวกระโปรงก็จะทิ้งตัวลงสวยอยู่ตลอดเวลา . ราคาของชุดนี้ตกอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท . . . เทียร่า(Tiara) ทางพระราชินีอลิซาเบธที่2 ทรงให้เคท มิดเดิลตันยืมมาใช้ . เรียกว่า halo tiara ทำมาจากเพชร Cartier ตั้งแต่ปี 1936 เป็นเทียร่าเก่าแก่ . ที่เจ้าชายอัลเบิร์ต ดยุคออฟยอร์ค(ต่อมาคือพระเจ้าจอร์จที่ 6)ซื้อให้ภรรยา . ของท่าน(เอลิซาเบธ) ต่อมาคือสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระบรมราชชนนี . (พระชนนีของสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2) ซึ่งต่อมาได้ยกให้ . เจ้าหญิงอลิซาเบธตอน 18 ชันษา . ต่างหู (Earrings) เป็นต่างหูเพชร รูปร่างเป็นใบต้นโอ๊ค มีส่วนที่ห้อยออกมา . เป็นรูปทรงลูกแพรล้อมเพชร มีเพชรเป็นรูปทรงผลโอ๊คห้อยมาตรงกลาง . ต่างหูออกแบบโดย Robinson Pelham ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากตราสัญญลักษณ์ . ประจำตระกูล Middleton ซึ่งประกอบด้วยผลและใบโอ๊ค ลักษณะของต่างหูออกแบบให้รับกับ tiara . และต่างหูคู่นี้ พ่อและแม่ของเคท มอบให้เธอเป็นของขวัญในวันแต่งงาน . . . ผ้าคลุมหน้า (Veil)ทำจากผ้าไหมสีงาช้าง(ivory) เนื้อดี . ปักริมผ้าเป็นลายดอกไม้อย่างประณีตด้วยมือ . . ชุดเจ้าสาว ลักษณะชุดเจ้าสาวจะคอดบริเวณเอว แล้วค่อยๆปล่อยบานออกบริเวณสะโพก . ซึ่งเป็นลักษณะชุดของสมัย Victorian และการดีไซน์แบบนี้ยังเป็นลักษณะเฉพาะตัวของ . Alexander Mc Queen อีกด้วย บริเวณตัวชุด ประดับด้วยลูกไม้อังกฤษ ฝรั่งเศส . ซึ่งปักด้วยฝีมือเย็บปักถักร้อยจากวิทยาลัยในวังหลวง ผ้าที่ใช้ตัดชุดเป็นผ้าไหมออแกนซ่า . ชั้นดี สีงาช้าง บริเวณกระโปรงตกแต่งเป็นลายดอกไม้ ซึ่งได้มาจากการตัดผ้าลูกไม้ลายต่างๆด้วยมือ . แล้วนำมาเย็บติดกับเนื้อผ้า ทุกอย่างเป็นงานที่ปัก และเย็บด้วยมือทั้งสิ้น และตัวกระโปรงมีการจับ pletes . ให้ดูมีลายละเอียดมากขึ้น หางกระโปรงยาว 2 เมตร 70 เซนติเมตร ส่วนกระโปรงด้านในใช้ผ้าไหม tulle . เย็บริมด้วยลูกไม้ ช่างจะคอยล้างมือทุกๆ 30 นาที เพื่อให้ลูกไม้และไหมสะอาดบริสุทธิ์ . และจะเปลี่ยนเข็มทุกๆ 3 ชั่วโมง เพื่อให้เข็มคมอยู่ตลอด . รองเท้าเจ้าสาว เป็นรองเท้า hand - made ตัดเย็บโดยทีมงานของ Alexander Mc Queen . ทำจากผ้า satin สีงาช้างปักลูกไม้ด้วยมือจากวิทยาลัยในวังหลวง

ปารีส โอต์ กูตูร์ ฟอลล์-วินเตอร์ 2011 กลิ่นอายย้อนยุค หรูหราคลาสสิก

        ปารีส โอต์ กูตูร์ Fall-Winter 2011 ยังอลังการ ได้ใจ สมเป็นนครหลวงแห่งโลกแฟชั่น ผลงานหลากหลายแบรนด์ดังได้สรรค์สร้างอย่างพิถีพิถัน หรูหรา ฟู่ฟ่า แต่แฝงด้วยคลาสสิก ตามแบบฉบับห้องเสื้อฝรั่งเศส ซึ่งอาจจะต้องดัดแปลงไปบ้างในเรื่องของสีสันหรือความระยิบระยับ ตามแรงกดดันที่ต้องสรรค์สร้างผลงานเอาใจลูกค้าหน้าใหม่หมวยตี๋ และแขกอาหรับ รวมถึงชาวหมีขาวกระเป๋าหนัก เพื่อกระตุ้นยอดที่ตกลงจากกลุ่มเศรษฐียุโรป
Dior
สำหรับหนึ่งดาวเด่น ในแคตวอล์กครั้งนี้ ห้องเสื้อ "ดิ ออร์" ติดโผ ที่ดีไซเนอร์จอมพลัง จอห์น กัลเลีย โน ได้เนรมิตแคตวอล์กกลายเป็นสวนดอกไม้ ทำให้หน้าหนาวในปีนี้สดชื่นแจ่มใสเหมือนช่วงสปริง บลอซซั่ม โดยแฟชั่นการ ออกแบบมีกลิ่นอายย้อนยุคเป็น "ดิ ออร์ 1950s แบบนิวลุค" ที่เน้นความเป็นผู้หญิง  ด้วยการโชว์ทรวดทรงด้วยเสื้อแนบตัว ด้านบน แล้วบานสะพรั่งด้วยกระโปรงแบบ "ทิวลิป ไลน์" ที่มีหลากหลายสีสันซ้อนอยู่ในกลีบของดอกทิวลิป ซึ่งผลงานได้ แสดงให้เห็นฝีมือและเทคนิคการตัดเย็บชั้นเซียน ที่งัดมาแสดงให้เห็นล้วนแฮนด์เมดทั้งสิ้น!!
Valentino

ในส่วน ของ วาเลนติโน ผลงานของดีไซเนอร์ดูโออย่างปิแอร์ เปาโล ปิซิโอลิ และมาเรีย กราเซีย ชิวรี ที่ต้องทำงานหนักกับการฟื้นฟูแบรนด์ พร้อมต้องพิสูจน์ฝีมือและแสดงผลงานที่แตกต่างจากดีไซเนอร์บรมครูอย่างวาเลน ติโน การาวานี ผู้ก่อตั้งในคอลเลกชั่นนี้ได้รับ คำชมโดยภาพรวมว่าสวยน่ารัก! ซึ่งเลือก ผ้าชีฟอง  ผ้าโปร่งมาออกแบบชุดกระโปรงสั้น มินิเดรส และกระโปรงยาว   รับกับโบในรูปแบบต่างๆ ทั้งชายเสื้อและชายกระโปรง ส่วนชุดที่เด่นสุดในคอลเลกชั่นนี้  ต้องยกให้กับการออกแบบชุดกระโปรงเกาะอกยาวสีขาว ที่มีโครงเส้นเป็นชั้นสุ่ม ซึ่งเคยอยู่ข้างในกระโปรงชุด เจ้าสาว กลับออกแบบมาโชว์ข้างนอกได้อย่างลงตัวงดงาม

Fashion Show – Rangsit University – Thesis

พฤษภาคม 4th, 2011 | Author: admin

คณะศิลปะและการออกแบบ สาขาวิชาแฟชั่นดีไซน์ มหาวิทยาลัยรังสิต เชิญร่วมเปิดประตูสู่มิติใหม่แห่งวงการแฟชั่น กับการแนวทางการสร้างสรรค์และออกแบบเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ในดีไซน์ล้ำสมัย ที่ผสมผสานไว้ซึ่งความสด ใหม่และแตกต่างอย่างลงตัว จากจินตนาการของเหล่านักศึกษาที่พร้อมก้าวสู่การเป็นดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ แห่งวงการแฟชั่น ในงาน “Irresistible 7” การแสดงผลงานก่อนจบการศึกษา

หรือผลงาน Thesis ของเหล่านักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะศิลปะและการออกแบบ สาขาวิชาแฟชั่นดีไซน์ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 ภายใต้แนวคิด “New Arrival” ที่สื่อถึงการเป็นแฟชั่นจากแนวคิดใหม่ ของคนรุ่นใหม่ ที่มีทั้งความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างและเต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพอย่างแท้จริง ผ่านการนำเสนอด้วยแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่ 50 คอลเลคชั่น จาก 50 นักศึกษา ที่จะร่วมเป็นหนึ่งในกลไกในการยกระดับวงการแฟชั่นไทยให้มีมาตรฐานทัดเทียม นานาชาติ

ร่วมชื่นชมผลงานความคิดสร้างสรรค์ พร้อมให้กำลังใจเหล่าดีไซน์เนอร์สายเลือดไทยรุ่นใหม่ เพื่อยกระดับวงการแฟชั่นไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ ในวันอังคารที่ 15 มีนาคม 2554 เริ่มลงทะเบียนเข้าชมตั้งแต่เวลา 16.00 น. เริ่มแสดงผลงาน 17.00 – 20.00 น. ณ โรงภาพยนตร์ เอสเอฟเวิลด์ ซิเนม่า 15 (SF World Cinema 15) ชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานครั้งใหญ่ของ คณะศิลปะและการออกแบบ สาขาวิชาแฟชั่นดีไซน์ มหาวิทยาลัยรังสิต

อ้างอิงจาก . designer.in.th : ศูนย์รวมดีไซเนอร์ไทย

   

   

   

   

 

Futuristic Fashion

Futuristic Fashion

โดย

อาจารย์สุปรียา สุธรรมธารีกุล

สาขาวิชาแฟชั่นดีไซน์

คณะศิลปะและการออกแบบ

มหาวิทยาลัยรังสิต

ลัทธิ Futurism เป็นแนวความคิดที่เกิดจากความศรัทธาต่ออนาคต โดยแสดงให้เห็นจากงาน ศิลปะ และความเคลื่อนไหวของสังคม ซึ่งมีจุดเริ่มต้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เป็นข้อสรุปทางสังคมของชาวอิตาเลียนอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวของ Futurism หาได้อยู่แต่ในอิตาลีเท่านั้น ยังเคลื่อนไหวไปพร้อมๆกับประเทศรัสเซีย อังกฤษ และประเทศต่างๆทั่วไป

กลุ่ม Futurists ได้ทดลองแนวความคิดดังกล่าว ในหลายสาขาวิชา อาทิ เช่น จิตรกรรม ประติมากรรม เครื่องปั้นดินเผา กราฟิคดีไซน์ การออกแบบอุตสาหกรรม การออกแบบภายใน การละคร ภาพยนตร์ แฟชั่น ผ้า วรรณคดี ดนตรี สถาปัตยกรรม และศิลปะและวิชาการทางการปรุงและประโยชน์ของอาหาร

   

ลัทธิ Futurism ในแฟชั่นดีไซน์ในช่วงทศวรรษ1960s เป็นสถานการณ์ที่อาจสังเกตเห็น ความคิดที่แตกต่าง กล่าวคือ ความคิดหนึ่งเห็นว่าอนาคตไม่สามารถพยาการณ์ได้    อีกความคิดหนึ่งเห็นว่าเมื่อใช้การจินตนาการ นักออกแบบก็สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่เราต้องการ ให้เกิดขึ้นในแนวทางอนาคตได้ เช่น รูปแบบเสื้อแนวทางSci-fi 

Futuristic Fashion ในปัจจุบันได้อิทธิพลและแรงบันดาลใจจากทศวรรษที่ 1960s ซึ่งเป็นการตีความซ้ำ จากแนวความคิดของแฟชั่นในยุคดังกล่าว โดยแสดงให้เห็นรูปแบบแฟชั่นแนวอวกาศ เช่นเกียวกับผลงานของนักออกแบบในยุค 60s นั่นเอง ซึ่งกล่าวได้ว่า ในยุค 60s ของ Andre Courrège และ Pierre Cardin  เป็นการออกแบบแนวอนาคต หรือ Space Age หรือ Futuristic Fashion นั่นเอง

         

ภาพ Futuristic Fashion ยุค 60s ของ Andre Courrège1968 (ซ้าย) และ Pierre Cardin  

เมื่อเปรียบเทียบกับผลงานFuturistic Fashion ของ Balenciaga และ Hussien Chalayan ได้แสดงให้เห็นความเป็นอนาคต โดยการใช้ เทคโนโลยีของวัสดุ เช่น Metallic หรือรูปลักษณ์ที่มีบรรยากาศอวกาศ อนาคต และความเร็ว

สิ่งที่สามารถอธิบาย Futuristic Fashion ได้ คือ เสื้อผ้าที่ไม่ใช่รูปแบบธรรมดาๆ (Dystopia ตรงกันข้ามกับ Utopia) หรือ การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับอนาคต เนื้อหาที่เกี่ยวกับนิยายวิทยาศาสตร์ โดยประสมประสาน กับความคิดของนักออกแบบ นอกจากนี้ ยังต้องแสดงรูปแบบและอารมณ์ของเสื้อผ้า ที่สื่อให้ผู้ชมเข้าใจถึงความเป็นอนาคต

 

ภาพFuturistic Fashion เมื่อต้นศตวรรษที่ 21 ของ Balenciaga(ซ้าย) Hussien Chalayan (ขวา)

กล่าวโดยสรุป Futuristic Fashion อาจแบ่งเป็นรูปแบบอนาคตได้ 3 รูปแบบด้วยกันคือ

1. รูปแบบเสื้อผ้าที่แสดงความเป็นอวกาศ เช่น sci-fi เสื้อผ้าที่มีวัสดุแสดงอนาคต เสื้อผ้าที่มีรูปทรงแปลก ดูภาพเพิ่มเติมจาก คอลเล็คชั่นของ Balenciaga, Hussien Chalayan
2. รูปแบบเสื้อผ้าที่มีการประสมประสานความเก่าในรูปลักษณ์ใหม่ที่อาจเห็นถึงความเป็นอนาคต ดูภาพเพิ่มเติมจาก คอลเล็คชั่นของ Yohji Yamamoto
3. รูปแบบเสื้อผ้าแสดงความผ่านสงคราม ผ่านเหตุการณ์ต่างๆจนเสื้อผ้าอาจขาดวิ่น ดูภาพเพิ่มเติมจาก Haider Ackerman, Garett Pugh

March25,2011

เพื่อทำความเข้าใจแนวความคิด Futurism จากความเดิมเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 และนักออกแบบ แนวทาง Futuristic ปัจจุบัน โปรดติดตามตอนต่อไป

    

ภาพที่3 และภาพที่ 4 ผลงานศิลปนิพนธ์ Futuristic Fashion ของนายธานุพล ภู่เทพ(ซ้าย) และนายอรรถกร สอนจรูญ (ขวา) สาขาวิชาแฟชั่นดีไซน์ คณะศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต

บรรณนุกรม

Lehnert, Gertrud. A History of Fashion in the 20th Century. Cologne: Konemann. 2000. 120 pp.

http.//www.google.co.th: futuristic design. March 7, 2011 

ภาพ

ภาพจากหนังสือ A history of Fashion in the 20^th Century โดย Gertrud Lehnert, Konemann, Cologne, 2000 p. 67

ภาพจาก หนังสือ Fifty Year of Fashion New Look to Now โดย Valerie Steele, Yale University Press, London, p.49

http.//www.google.co.th: futuristic design.  

http.//www.google.co.th: futuristic fashion.